กองทุนฯ เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานประเภทไฟฟ้า ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการเข้าลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพ และนําทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวออก จัดหาประโยชน์เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน โดยในการลงทุนครั้งแรกนี้จะมุ่งเน้นการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานประเภทไฟฟ้า โดยพิจารณาและประเมินศักยภาพการสร้างรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องของกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่จะลงทุนนั้น เพื่อให้การลงทุนของกองทุนฯ ในทรัพย์สินของกองทุนฯ เป็นไปตามเป้าหมายหลัก
ทั้งนี้เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ภายหลังการเสนอขายครั้งแรก กองทุนฯ จะเข้าลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิฯ ตามสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิฯ โดยพิจารณาจากจุดเด่นของการลงทุนทรัพย์สินดังกล่าว ดังต่อไปนี้
-
การมีสัญญาซื้อขายระยะยาวสําหรับไฟฟ้าไอดีและไอเสีย1
-
การมีสัญญาซื้อขายระยะยาวสําหรับไฟฟ้าไอดีและไอเสีย
รายได้หลักจากการประกอบกิจการไฟฟ้าของ BEC และ BPC มาจากการขายไฟฟ้าให้แก่กฟภ. และการขายไอน้ำให้แก่ BSF โดยจากประมาณการงบกําไรขาดทุนและการปันส่วนแบ่งกําไรตามสมมติฐานสําหรับปีตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2561 รายได้จากการขายไฟฟ้าให้ กฟภ. และรายได้จากการขายไอน้ำให้แก่ BSF คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 74 และ ร้อยละ 26 ของรายได้รวม จากการประกอบกิจการไฟฟ้า ตามลําดับ
-
ความมั่นคงในการจัดหาวัตถุดิบหลักในการผลิต2
-
ความมั่นคงในการจัดหาวัตถุดิบหลักในการผลิต
วัตถุดิบหลักของโรงไฟฟ้า ได้แก่ก ากอ้อย น้ำ RO และน้ำ Condensate ซึ่ง BEC และ BPC จะเข้าทําสัญญาซื้อขายกากอ้อย น้ำ RO และน้ำ Condensate กับ BSF โดยมีระยะเวลาของสัญญาสอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิฯ ซึ่งจะช่วยให้โรงไฟฟ้ามีแหล่งวัตถุดิบที่แน่นอนและเชื่อถือได้ ในกรณีที่ BSF ไม่สามารถจัดหากากอ้อยที่มีคุณสมบัติตามสัญญาได้ครบตามปริมาณที่กําหนด โดยไม่ได้มีสาเหตุจากเหตุการณ์พิเศษตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายวัตถุดิบชีวมวล BSF ตกลงจะจัดหาวัตถุดิบชีวมวลทดแทนอื่นให้เท่ากับปริมาณกากอ้อยที่ขาดไป ในราคาที่กําหนดภายใต้สัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิฯ หรือในกรณีที่ BSF ไม่สามารถจัดหาวัตถุดิบทดแทนได้ BSF ตกลงจะชําระค่าปรับเป็นจํานวน 2 เท่าของมูลค่ากากอ้อย (รวมถึงวัตถุดิบชีวมวลทดแทน) ที่ขาดไป
-
ลูกค้าของ BEC และ BPC มีคุณภาพเครดิตที่ดี3
-
ลูกค้าของ BEC และ BPC มีคุณภาพเครดิตที่ดี
โรงไฟฟ้ามีรายได้หลักจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟภ. และการจำหน่ายไอน้ำให้กับ BSF อีกทั้ง กฟภ. และ BSF มีความต้องการผลิตภัณฑ์ของโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
-
การกําหนดรายจ่ายในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแบบเหมารวมเพื่อการลดความผันผวนของรายได้สุทธิฯ4
-
การกําหนดรายจ่ายในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแบบเหมารวมเพื่อการลดความผันผวนของรายได้สุทธิฯ
กองทุนฯ ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องการต่อสัญญาและการปรับค่าบริการ เนื่องจากได้กำหนดค่าใช้จ่ายไว้ชัดเจนแล้ว
-
การถือหน่วยลงทุนของ BRR5
-
การถือหน่วยลงทุนของ BRR
BRR มีความตั้งใจจะถือหน่วยลงทุนของกองทุนฯ เป็นจํานวนไม่เกินหนึ่งในสาม (หรือประมาณร้อยละ 33.33) โดยตามข้อตกลงกระทําการ BRR จะถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจํานวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนฯ ณ เวลาใดๆ เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 10 ปีนับตั้งแต่วันที่กองทุนฯ เข้าลงทุนสำเร็จ
ทั้งนี้การที่ BRR ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มน้ําตาลบุรีรัมย์เข้ามามีส่วนได้เสียโดยการถือหน่วยลงทุนของกองทุนฯ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่ากลุ่มน้ําตาลบุรีรัมย์จะบริหารจัดการโรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่องเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอให้แก่กองทุนฯ ตามแผนงาน
-
BRR BEC และ BPC จะวางหลักประกันเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้แก่กองทุนฯ6
-
BRR BEC และ BPC จะวางหลักประกันเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้แก่กองทุนฯ
BRR BEC และ BPC จะวางหลักประกันสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของ BRR BEC และ BPC และสำหรับการชำระหนี้ที่ BEC และ BPC มีอยู่กับกองทุนฯ
-
BRR ตกลงดูแลและสนับสนุนการปฎิบัติงานของบริษัทในกลุ่ม7
-
BRR ตกลงดูแลและสนับสนุนการปฎิบัติงานของบริษัทในกลุ่ม
BRR ในฐานะบริษัทแม่ของกลุ่มน้ำตาลบุรีรีมย์ได้เข้าทำข้อตกลงเพื่อสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน ตลอดจนการดูแลให้บริษัทในกลุ่มปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิฯ และสัญญาที่จำเป็นต่อการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง
-
มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม8
-
มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
BRR และ/หรือ บริษัทย่อยของ BRR มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีโดยมีการควบคุมและประเมินด้านสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้โรงไฟฟ้าชีวมวลของ BEC และ BPC มีระบบการควบคุมมลสารทางอากาศ การควบคุมระดับเสียง การจัดการน้ำทิ้ง การกําจัดกากของเสีย และมีพื้นที่สีเขียวในบริเวณโครงการโรงไฟฟ้าประมาณ 25 ไร่ อีกทั้ง น้ำทิ้งบางส่วนสามารถนํากลับมาวนใช้ประโยชน์ใหม่ได้
โดยในช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา BEC และ BPC ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 14001:2004 และได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากวัตถุดิบชีวมวล